แพกโคลบิวทราซอล 15% 1กกx20
240.00 บาท
ติดต่อสอบถาม
ชื่อสามัญ : แพคโคลบิวทราโซล (Paclobutrazol) 15% WP
กลุ่มสารเคมี: Azole
 
ประโยชน์ :  เป็นสารควบคุมการเจริญเติบโตของพืช มีคุณสมบัติในการลดปริมาณการสร้างจิบเบอเรลลินในพืชมีผลทำให้ต้นพืชที่ได้รับสาร มีการเจริญเติบโตทางด้านกิ่งก้านลดลง ทำให้พืชมีความยาวของปล้องสั้นลง ช่วยลดแรงงานและประหยัดค่าใช้จ่ายในการตัดแต่งกิ่ง เหมาะสำหรับมะม่วงที่ปลูกระบบปลูกชิด นอกจากนี้ ยังช่วยส่งเสริมการออกดอกของมะม่วง ทำให้ออกดอกได้เร็วขึ้นก่อนฤดูกาล จึงสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้เร็วขึ้น
 
วิธีใช้ :
การใช้  กับมะม่วง สามารถใช้ได้กับมะม่วงหลายๆพันธุ์ เช่น น้ำดอกไม้  เขียวเสวย เป็นต้น เนื่องจากสามารถเคลื่อนย้ายเข้าสู่ลำต้นได้ดีโดยทางราก ผ่านทางท่อลำเลียงน้ำไปสู่ใบและยอดของพืช การใช้ให้ได้ผลดีและเหมาะสม ได้แก่ การผสมน้ำราดลงดินบริเวณรอบโคนต้นและภายในทรงพุ่ม ในขณะที่ดินมีความชื้นพอสมควร
 
การใช้ :  กับมะม่วงสามารถปฏิบัติได้ดังนี้ คือราดทางดินรอบโคนต้น โดยขุดดินให้เป็นร่องรอบโคนลึกประมาณ 1-2 นิ้ว ผสมตามอัตราที่แนะนำกับน้ำสะอาด 1-2 ลิตร ราดรอบโคนต้นมะม่วงให้ทั่วถึง ก่อนการราดสารควรมีการให้น้ำแก่ต้นมะม่วงเสียก่อน และต้นมะม่วงควรอยู่ในระยะใบอ่อน หรือใบพวง จนถึงใบเพสลาด ซึ่งเป็นระยะที่มะม่วงสามารถดูดซับเข้าไปทางรากได้ดีและหลังจากราดสารนี้แล้วควรมีการให้น้ำกันอย่างสม่ำเสมอ 3-4 สัปดาห์ เพื่อให้ต้นพืชสามารถดูดซับสารขึ้นต้นได้หมด การใช้สารราดโคนต้น นับเป็นวิธีที่เหมาะสมและได้ผลดี แนะนำให้ใช้กับมะม่วงทุกขนาด สำหรับในกรณีที่ไม่สะดวกในการใช้วิธีราดรอบโคน เช่น มีการพูนโคนต้น สามารถที่จะราดรอบชายพุ่มได้โดยขุดดินใต้ชายพุ่มเข้ามาในบริเวณทรงพุ่มให้เป็นร่องลึก 2-3 นิ้ว ผสมตามอัตราแนะนำกับน้ำสะอาดราดตามชายพุ่มให้ทั่วถึง
 
การใช้ เส้นผ่าศูนย์กลางทรงพุ่ม อัตราการใช้ต่อต้น
รด รอบโคนต้น 2-4 เมตร 20-40 กรัม
  4-6 เมตร 40-80 กรัม
  6-8 เมตร 80-100 กรัม
  8-10 เมตร 100-200 กรัม
 
 
หมายเหตุ : ควรใช้อัตราต่ำกับต้นมะม่วงพันธุ์ออกดอกได้ง่าย หรือพันธุ์เบาและใช้ในอัตราสูงกับมะม่วงพันธุ์ที่ออกดอกยากหรือพันธุ์หนัก
 
ระยะเวลาที่ใช้ : เพื่อให้มะม่วงมีการออกดอกและติดผลได้ดีขึ้น ควรพิจารณา ฃ่วงการออกดอกให้เหมาะสมโดยให้มะม่วงออกดอกในเดือนที่ฝนทิ้งช่วง เช่น กันยายน ตุลาคม ในเขตภาคกลาง หรือในเดือนอื่นตามความเหมาะสมในแต่ละเขต โดยคำนวณวันที่ควรจะใช้ ซึ่งถือหลักว่ามะม่วงพันธุ์เบาประมาณ 45-60 วัน และพันธุ์หนักประมาณ 90-120 วัน มะม่วงจะมีการออกดอกภายหลังจากการใช้สาร นอกจากนี้จะสามารถใช้สารในช่วงที่ต้องการให้มะม่วงขายได้ราคาดีในการผลิตนอกฤดูและช่วยให้มะม่วงออกดอกได้สม่ำเสมอ เก็บเกี่ยวได้ตามกำหนดเวลาในช่วงการผลิตมะม่วงในฤดู
 
• การใช้สารซ้ำต้นเดิมในฤดูที่ผ่านมา ควรใช้สารตามอัตราแนะนำกับมะม่วงที่มีการแตกยอดใหม่ได้ตามปกติ ในกรณีที่มะม่วงแตกยอดใหม่แล้วมียอดสั้นผิดปกติ ให้ใช้อัตราลดลงครึ่งหนึ่งของอัตราแนะนำกับมะม่วงพันธุ์เบาและให้ใช้อัตราประมาณครึ่งหนึ่งถึงสามในสี่ส่วน ของอัตราแนะนำกับมะม่วงพันธุ์หนัก
 
ข้อแนะนำและข้อควรระวัง
• ควรใช้กับพืชที่มีความแข็งแรงสมบูรณ์และได้รับการดูแล และบำรุงรักษาอย่างดีอยู่เป็นประจำ
• ควรใช้ ภายหลังจากพืชที่มีการแตกใบอ่อนอย่างน้อย 1-2 ชุด และอยู่ในระยะใบอ่อน ใบพวง หรือใบเพสลาด
• ไม่ควรใช้ตามอัตราที่แนะนำโดยวิธีราดทางดินเกินปีละ 1 ครั้ง
• ไม่ควรใช้ในอัตราที่สูงเกินไป เพราะอาจทำให้พืชเกิดอาการชะงักงันและไม่เจริญเติบโตได้